คลินิกอาจไม่ใช่แหล่งรวมของเชื้อโรคเท่ากับโรงพยาบาล แต่ก็ยังจำเป็นต้องให้บริการกับผู้ป่วยที่หลากหลาย การควบคุมคุณภาพอากาศในพื้นที่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ “ห้องปลอดเชื้อ” หรือ Cleanroom คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และช่วยสนับสนุนกระบวนการทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยห้องปลอดเชื้อในคลินิก นั้นถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของอากาศในระดับสูงสุด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากมลภาวะต่างๆ เช่น อนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5/PM10) แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อโรค เชื้อรา สารเคมี และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์

และเรามีความเชี่ยวชาญในระบบอากาศสะอาดที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษา เพื่อที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยที่สุดในคลินิก

ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดของระบบห้องปลอดเชื้อ คือการควบคุมเชื้อโรคในอากาศให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด เพราะจำเป็นต้องมีการป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วย ดังนั้น การกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก ฝุ่นละออง แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และสารเคมีในอากาศ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัด และเรามีความเชี่ยวชาญในระบบระบายอากาศในโรงพยาบาลและคลินิกมามากกว่า 10 ปี ซึ่งได้แบ่งเป็นผลลัพท์ที่เห็นได้ชัด ดังนี้

ระบบห้องปลอดเชื้อในคลินิก เป็นมาตรฐานและเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ โดยเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่การแพทย์ในยุคปัจจุบัน และไม่สามารถมองข้ามได้ โดยสามารถแบ่งเป็น ประโยชน์ต่างๆได้ ดังนี้

• ลดความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะเกิดการติดเชื้อในคลินิก และในห้องผ่าตัด
• ลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรคของบุคลากรทางการแพทย์
• ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ทำให้คลินิกปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดและเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ในด้านสุขอนามัย

ระบบห้องปลอดเชื้อ คือ ระบบที่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องเติมอากาศ ควบคู่ไปกับเครื่องฟอกอากาศ และในกรณีของโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศออกไปด้วย เพื่อให้อากาศมีการถ่ายเทอย่างรวดเร็ว เพราะจะให้มีการสะสมของเชื้อโรคไม่ได้ รวมถึงอาจจะต้องมีการปรับปรุงคุณลักษณะและวัสดุภายในห้องใหม่ ให้เป็นวัสดุที่ใช้ในทางการแพทย์ เพราะวัสดุแบบทั่วไปจะทำให้ประสิทธิภาพของระบบลดลง โดยจะมีขั้นตอนการติดตั้ง ดังนี้

• ประเมินและคำนวณขนาดของพื้นที่ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
• ทำการติดตั้ง ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของเรา จะควบคุมและดูแลการติดตั้งระบบ ในทุกขั้นตอนอย่างละเอียดจนแล้วเสร็จ
• ตรวจเช็คการทำงานของระบบอย่างละเอียด รวมถึงตั้งค่าปรับจูนตัวเครื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
• ทำการตรวจวัดระดับค่ามลภาวะต่างๆ ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กําหนด ก่อนทำการส่งมอบงาน

เราใช้ HEPA Filter Class H13-H14 (High-Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน หรือก็คือดักจับได้จนถึง 0.1 ไมครอน ในประสิทธิภาพการกรองที่ 99.97% สำหรับ HEPA Filter Class H13 และ 99.997% สำหรับ HEPA Filter Class H14 ซึ่งรวมถึงฝุ่น PM2.5, สารเคมี, สารก่อภูมิแพ้, สปอร์เชื้อรา, แบคทีเรีย และไวรัส โดย HEPA Filter จะทำหน้าที่กรองอากาศทั้งหมดที่ไหลเวียนผ่านระบบ โดยมี EC Fan หรือ พัดลมประสิทธิภาพสูง เป็นตัวผลักดันอากาศ

ผลิตภัณฑ์และระบบของเรา ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และคุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพราะผลิตภัณฑ์ทุกเครื่องของเราจะได้รับการทดสอบคุณภาพและผ่านการรับรองมาตราฐานจากองค์กรต่างๆ ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ดังนี้

• มาตราฐานกองแบบแผน กระทรวงสารธารณสุข เอกสารเลขที่ ก45/เม.ย./63
• มาตราฐานการทดสอบการรั่ว ISO 14644-3
• HEPA Installation Leak Test, Leak Acceptance < 0.01% ทุกเครื่อง